สมัครเล่นบาคาร่าออนไลน์ สมัครสมาชิกบาคาร่าออนไลน์มีทีมงานดูแลตลอด 24 ชม.

สมัครเล่นบาคาร่าออนไลน์ สมัครสมาชิก ทีมงานดูแลตลอด 24 ชม

เรื่องการเงิน

กรุงไทย เลื่อนเก็บค่าธรรมเนียม ถอนเงินไม่ใช้บัตรไม่มีกำหนด

กรุงไทย ประกาศเลื่อนเก็บค่าธรรมเนียม ‘ถอนเงินไม่ใช้บัตร ไม่มีกำหนด ย้ำตระหนักถึงความเดือดร้อนของลูกค้าที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้เงินสดในชีวิตประจำวัน

ตามที่ธนาคารกรุงไทย ประกาศจัดเก็บค่าธรรมเนียมการถอนเงินไม่ใช้บัตร (Cardless ATM Withdrawal) ครั้งละ 10 บาท เพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัล ลดการใช้เงินสด

โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมการถอนเงินไม่ใช้บัตร 1ครั้งต่อเดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมถึง 31 กรกฎาคม 2566 นั้น

เรื่องการเงิน

ทั้งนี้ หลังจากที่ธนาคารประกาศแจ้งให้ลูกค้ารับทราบผ่านช่องทางของธนาคาร ปรากฎว่า ได้รับเสียงสะท้อนจากลูกค้าจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งธนาคารยินดีน้อมรับฟังทุกความคิดเห็น เพื่อนำมาปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ โดยตระหนักถึงความเดือดร้อนของลูกค้าที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้เงินสดในชีวิตประจำวัน จึงยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวออกไปก่อน

ธนาคารขอขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจใช้บริการด้วยดีเสมอมา และขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ แนะนำข่าวเพิ่มเติม>>> กองทุนรับเอฟเฟ็กต์ภาษี พอร์ตหุ้น-SSF ต้นทุนพุ่ง

การเงิน

กองทุนรับเอฟเฟ็กต์ภาษี พอร์ตหุ้น-SSF ต้นทุนพุ่ง

กองทุนรับเอฟเฟ็กต์ภาษี พอร์ตหุ้น-SSF ต้นทุนพุ่ง

กองทุนยันรัฐเก็บภาษีขายหุ้น กระทบต้นทุนแต่ไม่มากนัก เผย SSF ไม่ได้รับการยกเว้น คาดเอฟเฟ็กต์กองทุนที่ลงทุนหุ้น “กลาง-เล็ก” ส่อได้รับความนิยมน้อยลง

นายชยนนท์ รักกาญจนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท หลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุนฟินโนมีนา จำกัด กล่าวว่า การที่รัฐบาลจะเก็บภาษีขายหุ้น (FTT)

ซึ่งจะมีกองทุนที่ได้รับการยกเว้นจากการเก็บภาษีดังกล่าว 3 กองทุน คือ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนประกันสังคม และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ขณะที่กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) จะถูกเก็บภาษีดังกล่าว จึงมีผลกระทบ รวมถึงกองทุนรวมปกติทั่วไปที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

“ผลกระทบ ก็คือ ต้นทุนที่จะแพงขึ้น จากการเก็บภาษีหุ้น แต่ก็ไม่ได้เยอะมาก โดยกองทุนที่มีการหมุนพอร์ตที่ค่อนข้างเร็ว หรือเป็นกองทุนแอ็กทีฟก็จะโดนค่าธรรมเนียมที่เยอะขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนในระยะยาวได้ ซึ่งถ้ากองทุนที่มี turnover ratio ที่ 1.5-2% ขึ้นไป จะได้รับผลกระทบจากการเก็บภาษีขายหุ้นค่อนข้างมากกว่ากลุ่มอื่น เนื่องจากผลตอบแทนต่อปีอาจจะลดลง” นายชยนนท์กล่าว

การเงิน

ขณะที่นายประกิต สิริวัฒนเกตุ นักกลยุทธ์การลงทุน กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด กล่าวว่า กองทุนเป็นอีกกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบจากการเก็บภาษีขายหุ้น แต่ผลกระทบไม่มาก โดยต้นทุนจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากจนต้องกังวล เพียงแต่อาจจะทำให้ต้องลดความถี่ในการขายลง และพิจารณาในรายละเอียดการซื้อมากขึ้น

“ถ้าจะกระทบหนัก ต้องเป็นภาษีแบบ capital gain ตอนนี้ จึงถือว่ากระทบค่อนข้างน้อย เพราะเก็บในอัตราที่ต่ำและกองทุนก็เป็นกลุ่มที่ไม่ได้มีการซื้อขายบ่อยอยู่แล้ว” นายประกิตกล่าว

ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายกลยุทธ์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า การเก็บภาษีในอัตรา 0.1% ถือว่าไม่ได้สูง

ซึ่งจะส่งผลให้กองทุนมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งดูแล้วกองทุนน่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เนื่องจากมีการซื้อขายไม่บ่อย อย่างไรก็ดี กองทุนที่จะกระทบมาก ก็จะเป็นกองทุนประเภทที่ซื้อมาขายไป แต่ก็มีอยู่ค่อนข้างน้อยมาก และเชื่อว่ากองทุนประเภทดังกล่าว ก็น่าจะค่อย ๆ ได้รับความสนใจน้อยลงเรื่อย ๆ

“กลุ่มกองทุนที่ทำ high frequency trade ที่มีการเทรดระหว่างวัน อาจจะมีสัดส่วนที่ลดลง หรือโอกาสทำกำไรจะน้อยลง ทั้งนี้ โดยหลักกลุ่มที่เป็นหุ้นขนาดกลาง ขนาดเล็ก จะได้รับผลกระทบมากกว่า เพราะต่อให้เป็น บลจ. หรือเป็นนักลงทุนปกติ ก็มักจะใช้เป็นเครื่องมือในการเก็งกำไร พอวอลุ่มหายไป กลุ่มนี้ก็จะได้รับความนิยมน้อยลง และกองทุนก็อาจจะย้ายมาอยู่ในหุ้นใหญ่มากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีสภาพคล่องสูง” ดร.จิติพลกล่าว

แนะนำข่าวการเงินเพิ่มเติม : ธอส.เปิดแอปช่วยลูกค้าขอกู้บ้าน จ่อปรับลดขนาด 70 สาขาในห้าง

ธอส.เปิดแอปช่วยลูกค้าขอกู้บ้าน จ่อปรับลดขนาด 70 สาขาในห้าง

ธอส.เปิดแอปช่วยลูกค้าขอกู้บ้าน จ่อปรับลดขนาด 70 สาขาในห้าง

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.ได้นำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับปรุงการทำงานมาตลอด โดยเฉพาะระบบคอลแบงกกิ้ง ซึ่งใช้เงินลงทุนเกือบ 1,000 ล้านบาท ล่าสุด ธอส.ได้ทุ่มเงินอีก 100 ล้านบาท พัฒนาแอปพลิเคชัน GHB ALL GEN ให้ทันสมัยรองรับจำนวนลูกค้าได้มากขึ้น อำนวยความสะดวกลูกค้าในการยื่นขอสินเชื่อกู้บ้าน ถือเป็นการปรับรูปแบบการทำงานให้ทันสมัย รองรับการแข่งขันการปล่อยสินเชื่อในอนาคต โดยระบบจะสมบูรณ์เดือน มี.ค.66

การเงิน

“ช่วงนี้จะทดลองระบบและโอนย้ายลูกค้าที่มีอยู่ 1 ล้านราย มาอยู่บนระบบใหม่ โดยระบบใหม่นี้จะช่วยการปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว เพราะก่อนปล่อยสินเชื่อ ลูกค้าสามารถแชตผ่านแอปได้ทุกคำถาม รวมถึงการเตรียมเอกสารต่างๆ เมื่อเอกสารครบสามารถมาติดต่อธนาคารเพื่อเซ็นสัญญาเงินกู้ได้ รวมถึงการประเมินราคาที่อยู่อาศัยก็จะรวดเร็วขึ้นด้วย นอกจากนี้ ธอส.จะปรับลดขนาดสาขา ธอส.ในห้างสรรพสินค้าลง จากปัจจุบันมีทั้งหมด 200 สาขา โดยมี 70 สาขาที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า บางแห่งอาจเหลือเพียงตู้ชำระเงิน แต่ยืนยันไม่มีการปลดพนักงานและไม่มีการปิดสาขา แต่พนักงานที่อยู่สาขาเดิมต้องปรับตัวเองไปเป็นพนักงานด้านสินเชื่อ โดย ธอส.มีพนักงานทั้งหมด 5,000 คน.